เปิดใจ ยายตีหลาน ยันจะไม่ทำร้ายอีก พูดแล้วหากย่ารับไปเลี้ยง

เปิดใจ ยายตีหลาน ยันจะไม่ทำร้ายอีก พูดแล้วหากย่ารับไปเลี้ยง

วันที่ 29 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิป พฤติกรรมของยายทุบตีหลานอย่างรุนแรง เพียงเพราะเด็กไม่ยอมกินยา จึงตะคอกเสียงดังจนเด็กร้องไห้ ก่อนจะลงมือฟาดอย่างแรงที่หลังและถีบจนศีรษะเด็กกระเด็นไปโขกผนังปูน เหตุเกิดที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่องวานนี้ นายธงชัย โอฬารพัฒนชัย นายอำเภอโชคชัย ได้ลงพื้นที่ เพื่อพบ นางสำราญ เบี้ยกระโทก อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆ ผู้ก่อเหตุ ส่วนเด็กที่ถูกตี คือ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 6 ขวบ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นยายแท้ๆ ซึ่ง อยู่กับหลาน 2 คน คนที่ถูกตีอายุ 5 ขวบ และหลานสาวอายุ 19 ปี ถือเป็นเสาหลักในครอบครัว เพราะพ่อแม่เด็กไปทำงานที่ต่างประมาณได้ 3 ปีแล้ว ส่วนเด็กที่ถูกตีคลอดมาไม่ค่อยแข็งแรงเนื่องจากคลอดก่อนนำหนด คลอดแล้วป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วต้องผ่าตันตั้งแต่แรกเกิด จากนั้นต้องผ่าตัดลำไส้ที่ตีบ และยังต้องผ่าตัดขาที่ผิดรูป จนสามารถเดินวิ่งได้เป็นปกติ แต่ก็ยังมีโรคปอดแฟบ ที่ต้องพ่นยาและเกิดยาเป็นประจำ

แต่จากการดูพฤติกรรมเบื้องต้นพบว่าเด็กร่าเริงดี ไม่มีอาการตื่นตระหนกหรือผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้ทำจริง แต่เป็นคลิปเก่าเมื่อ 5 ถึง 6 เดือนก่อน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายอีกเลย ขณะที่ย่าของเด็กก็อยากรับหลานมาเลี้ยง แต่สิทธิ์การเลี้ยงเด็กปัจจุบันเป็นของยาย จึงไม่สามารถทำอะไรได้นั้น

ล่าสุด นางสำราญ ยายผู้ก่อเหตุทำร้ายหลาน บอกว่าหลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ทำให้ตนเองรู้สึกเครียดมาก ซึ่งเมื่อวานนี้นายอำเภอโชคชัย ก็ได้มาพบกับตนและทำความเข้าใจกันแล้ว ตนเองก็รับปากว่าจะดูแลหลานเป็นอย่างดี จะไม่ทำร้ายหลานอีกแล้ว อีกทั้งพ่อแม่ของเด็กที่อยู่ต่างประเทศ ก็ทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับตน ส่วนย่าของเด็กที่มีความประสงค์จะรับหลานไปเลี้ยงนั้น หากต้องการตนก็พร้อมจะอนุญาตให้นำไปรับเลี้ยงได้ ไม่มีปัญหาอะไร จึงขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดภาพดังกล่าว หลังจากนี้จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกแล้ว ขอให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนบ้านละลม ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย ซึ่งพบว่าวันนี้ เด็กชายเอ (นามสมมติ) ที่ถูกทำร้ายก็ได้เดินทางมาเข้าห้องเรียนตามปกติ โดยเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ยังคงวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ด้วยความร่าเริงสนุกสนาน

จากการสอบถาม นางจิราพร สุขสมเขตร์ ครูประจำชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านละลม ได้รับการเปิดเผยว่า เด็กชายเอ เป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนๆ ในห้อง ไม่มีปัญหาซึมเศร้าแต่อย่างใด มีเพียงพัฒนาการเรื่องการเขียนที่ช้ากว่าเพื่อนๆ เท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องสุขภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรง แต่โดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตใจที่ดี ส่วนเรื่องปัญหาความรุนแรงที่ปรากฏในคลิป ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ