2 ทายาท แบม จณิสตา ฉายแววเก่งไม่แพ้คุณแม่

2 ทายาท แบม จณิสตา ฉายแววเก่งไม่แพ้คุณแม่

นั่งคุยกับผู้หญิงเก่ง แบม จณิสตา อัปเดตชีวิตในวันที่เป็นทั้งนักธุรกิจและคุณแม่ พร้อมเปิดตัวคุณลูกสุดน่ารัก น้องเวนิส กับ น้องวิ้นซ์ ซึ่งหลายคนบอกเก่งได้แม่ สาวสวย รวย เก่ง ที่แจ้งเกิดในฐานะพิธีกรจากรายการตีสิบ แบม จณิสตา จรูญสมิทธิ์ ซึ่งห่างหายจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่ เพราะตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นนักธุรกิจ เจ้าของร้าน Audrey Cafe ร้านอาหารสไตล์วินเทจชื่อดังย่านทองหล่อ ที่เหล่านักชิมต่างคอนเฟิร์มเรื่องความอร่อย

พร้อมเปิดตัวคุณลูกวัยกำลังน่ารักทั้งน้อง เวนิส-วิ้นซ์ ลูกสาวคนโตและลูกชายคนเล็กมาร่วมวงพูดคุยกับคุณแม่คนสวย ซึ่งบอกเลยว่าฉายแววความเก่งไม่แพ้คุณแม่ มาดูวิธีเลี้ยงลูกของคุณแม่คนเก่งและชีวิตที่แฮปปี้แบบฉบับ แบม จณิสตา ชีวิตหลังสัมผัสคำว่า แม่: ที่บอกว่าเราคือผู้ได้รับ ทั้งที่คนทั่วไปว่าแม่คือผู้ให้ ก็เพราะแบมมองว่านอกจากการที่เราให้กำเนิดเขา ให้การดูแลเลี้ยงดูเขา เวนิสก็ให้แบมด้วยเหมือนกัน เวลาแบมกลับไปบ้าน ได้เจอเขามันชื่นใจทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าเราอยากดูแลตัวเอง

รู้สึกรักตัวเองมากขึ้น มันมีมากกว่าตอนที่ไม่มีเขา อย่างเมื่อตอนที่ยังไม่มีลูก การดูแลตัวเองแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ คิดกระทั่งว่าไม่กลัวตาย ชีวิตเกิดมาก็แค่นั้น ถ้ามีวันหนึ่งมันเกิดอะไรขึ้นมาก็ไม่เป็นไร คือความรักชีวิตก็เป็นแบบหนึ่ง เมื่อก่อนไม่ตรวจสุขภาพ แต่เดี่ยวนี้ไม่ได้ ต้องดูแลตัวเอง เพราะถ้าเราไม่แข็งแรง เราอ่อนแอ เราก็จะดูแลเขาไม่ได้เต็มที่ หรือถ้าเราไม่มีชีวิตอยู่แล้วใครจะเป็นคนดูแลเขา เมื่อก่อนก็เคยได้ยินคนพูดนะคะว่าพอมีลูกชีวิตจะเปลี่ยน แต่ไม่เคยคิดว่าจะมากขนาดนี้

Working Mom ตัวจริง : พอเริ่มวางแผนให้ลูกเข้าโรงเรียน แบมก็เริ่มกลับมาทำงาน ทุกวันนี้ ก็คือทำธุรกิจร้านอาหาร ดูแลเองทุกอย่าง จะเข้าที่ร้านทุกวัน แบมเลือกทำอะไรที่ใกล้บ้าน ใกล้ลูกสามารถนำลูกมาได้ หรือหากเขาไม่ได้มา เราก็ต้องสะดวกที่จะกลับไปหาหรือให้พี่เลี้ยงพามาหาเราได้ ส่วนงานด้านอื่น ๆ ก็จะรับบ้างเล็กน้อย อย่างเชิญไปร่วมงานต่าง ๆ หรืองานพรีเซ็นเตอร์ที่ยังได้รับเลือกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็จะไม่ใช่งานที่หนักหรือต้องใช้เวลามากนัก เพราะแค่นี้เวลาก็เต็มพออยู่แล้ว

ณ เวลานี้แบมให้ลูกเป็นอันดับหนึ่งในทุก ๆ เรื่องแล้วด้วยกำลังใจของคุณแม่คนเก่ง : มาจากคนรอบข้าง สามี พี่น้อง ลูก และตัวเราเองก็ต้องให้กำลังใจตัวเราด้วย เราต้องเลือกมองในสิ่งที่ดี สิ่งที่เบ่งบาน ชีวิตแบมก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถ้าเรามองมันเป็นใหญ่แล้วขยายก็จะห่อเหี่ยว อยากแต่จะนอนอยู่บ้าน ไม่อยากไปไหน คนเราพักเบรกได้ แต่พอพักแล้วเราก็มานั่งคิดด้วยเหตุด้วยผลแล้วก็เดินต่อไป

ต้องมีกำหนดระยะเวลาของการเบรก เพราะถ้าเบรกเกินกำหนดมันก็จะเสียหายถึงเรื่องอื่น ๆ ด้วย อย่ากลัวที่จะเหนื่อย เพราะความเหนื่อยเป็นสิ่งที่มนุษย์เราต้องเจออยู่แล้ว คุณจะบอกว่าประสบความสำเร็จไม่เหนื่อย ไม่มี รวยไม่เหนื่อย ไม่มีอย่ามองว่าเราคือคนที่เหนื่อย คนที่แย่ที่สุดในโลกนี้ คนที่แย่กว่าเราก็มีอีกตั้งเยอะ ฉะนั้นเมื่อเราไม่กลัวเหนื่อย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ