บดินทร์ ดุ๊ก เปลี่ยนไปจนเกือบจำไม่ได้

บดินทร์ ดุ๊ก เปลี่ยนไปจนเกือบจำไม่ได้

ห่างหายจากวงการไปหลายสิบปี สำหรับดีตนายแบบและพระเอกหนังที่โด่งดังสุดๆ “บดินทร์ ดุ๊ก” ที่เคยฝากผลงานมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นละครเรื่อง ตำรับรัก,นางทิพย์,ห้องหุ่น,แม่นาคพระโขนง,หาดหรรษา ฯลฯ และภาพยนต์ หากคุณรักใครสักคน,มนต์รักเพลงทะเล้น,เฉิ่ม,พรางชมพู,แฟนเก่า,แฟนใหม่ ฯลฯ

นอกจากฝีมือการแสดงจะดีแล้ว หนุ่มดุ๊ก ยังเคยฝากผลงานด้านเพลงอีก 2 อัลบั้ม ซึ่งได้แก่ ยังไงก็ดุ๊กและด้วยรัก จนกระทั้งประสบความสำเร็จจนถึงจุดอิ่มตัว หนุ่มดุ๊กใช้โอกาสพักงานในวงการผันสายงานไปเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม รวมไปถึงศึกษาปริญญาโทจาคณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยวและบันเทิง เวลาผ่านไปหนุ่มดุ๊กก็เข้ามาทำงานอยู่ในส่วนของผู้อำนวยการสถานีสยามเรียกว่าชีวิตตอนนี้มาไกลมากเหลือเกิน จากพระเอก- นักร้อง กลายมาเป็นทั้งอาจารย์รวมถึงเป็นผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม

อดีตนายแบบและพระเอกหนังที่โด่งดังสุดๆ มีผลงานหนังหลายเรื่องก่อนจะก้าวสู่จอแก้วในเรื่อง “ตำรับรัก” ประกบ แอน สิเรียม ทำให้ชื่อเสียงยิ่งโด่งดังเป็นพลุแตก ก่อนจะรับบทตัวร้ายครั้งแรกในละคร “คนละโลก” ซึ่งทำให้ได้รางวัล เมขลา และ โทรทัศน์ทองคำ สาขาสมทบชายดีเด่น แต่ในปี 2545 ได้ทิ้งวงการละครและผันตัวเองมาเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย หายหน้าหายตาไปจากวงการนานเกือบ 20 ปี สำหรับอดีตดัง บดินดร์ ดุ๊ก ที่ในวันนี้เจ้ำตัวกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆ มากมาย ล่าสุด เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ ตอนนี้ทำไมต้องใส่หน้ากาก ไม่สบายครับ เขาเรียกว่าขยับไม่ได้ครึ่งหน้า แต่ข่าวไปลงว่าจะเป็นครึ่งตัว เพราะว่าลงไม่ละเอียด หลายคนก็โทรกันเข้ามาใหญ่เลยว่าเป็นอะไร นอนโรงพยาบาลไหนอะไรแบบนี้ จริงๆเป็นแค่ครึ่งหน้าครับ ไปเปิดเผยเรื่องอาการที่งาน โดนกล่าวหาว่าสร้างอีก มันเป็นจังหวะ คืออยู่มาทุกคืนก็ไม่เป็นไร จนมาคืนสุดท้าย ตอนไปยังไม่เป็นอะไรก็ยังรับแขกได้ปกติ แต่พอมาคืนสุดท้าย หลังจากที่เสร็จ ก็กลับมาบ้านที่พัก แล้วก็นั่งคุยกันไปคุยกันมาก็รู้สึกว่าทำไมหน้าเราตึงๆ เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรก็เลยเข้านอน แล้วก็เล่นโทรศัพท์มือถือน้ำตามันก็ไหล ปากก็เริ่มตุ่ยๆ แข็งๆ เราก็แปลกๆ เลยเดินไปส่องกระจก

ครั้งแรกที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกเป็นไง มันก็ตกแล้วไง หน้ามันจะนิ่ง คือกล้ามเนื้อหน้าที่โดนเอฟเฟคมันจะไม่ทำงาน แต่ด้านที่มันปกติเราจะพูด จะยิ้มอะไรมันก็สามารถทำได้ปกติ มันเกิดขึ้นเร็วมากสาเหตุมาจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ มันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก อาจจะเกิดจากติดซึ่งเปอร์เซ็นน้อยมาก เกิดจากการอักเสบโดยส่วนตัวเองอะไรแบบนี้ จริงๆมันมีเยอะมาก ต้องบอกก่อนว่าเคยเป็นมา 2 ครั้งแล้ว แต่ครั้งแรกเป็นแล้วจะหาย ครั้งนี้ถามว่าตกใจมากไหม ก็ไม่ตกใจเท่าไหร่ แล้วก็คิดว่าเป็นอีกแล้ว แต่เป็นอีกข้างนึง เราเลยก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร ครั้งที่แล้วที่เป็นนานไหมกว่าจะหาย ประมาณเกือบ 2 เดือน แต่ต้องทำกายภาพทุกวัน อย่างเช่นตอนนี้ต้องทำทุกวัน ครั้งนี้เป็นมาประมาณอาทิตย์นึงแล้ว ที่ตั้งใจมาออกคืออยากเป็นวิทยาทานกับคนที่เป็น

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ