ชีวิตล่าสุด ผ่องศรี วรนุช ยอมรับสังขาร ไร้ทายาทคอยเหลียวแล

ชีวิตล่าสุด ผ่องศรี วรนุช ยอมรับสังขาร ไร้ทายาทคอยเหลียวแล

เชื่อว่าแฟนเพลงรุ่นเก่าๆคงไม่มีใครไม่รู้จักสำหรับ ‘ผ่องศรี วรนุช’ เป็นศิลปินแห่งชาติ นักร้องเพลงลูกทุ่ง ได้รับฉายาว่า ราชินีลูกทุ่ง (คนแรก) ที่เริ่มอาชีพนักร้องเมื่อปี พ.ศ. 2498 จนโด่งดังในฐานะนักร้องและประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพการทำงานในช่วงปี 2502-2523 และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักร้องลูกทุ่ง) ประจำปี 2535

‘ผ่องศรี วรนุช’ มีผลงานเพลงที่เป็นปรากฏการณ์ต่อวัฒนธรรมเพลงลูกทุ่งเป็นจำนวนมาก ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เสียงโทนสูง เช่น กอดหมอนนอนหนาว, วิมานในฝัน, น้อยใจรัก, ภูเก็ต, ลืมเสียเถิด, ฝากดิน, สาวเหนือเบื่อรัก, ฝนหนาวสาวครวญ เป็นต้น ชีวิตครอบครัว ‘ผ่องศรี วรนุช’ เคยใช้ชีวิตคู่ อยู่กับ ‘เทียนชัย สมยาประเสิรฐ’ นักร้องนักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดัง ก่อนที่จะแยกทางกัน จากนั้นได้มาใช้ชีวิตอยู่กินกับ ‘ราเชนทร์ เรืองเนตร’ นักดนตรีชื่อดัง จน ‘ราเชนทร์’ จากไปเมื่อ พ.ศ. 2541 โดยไม่มีทายาท และบั้นปลายของชีวิตนั้น ‘ผ่องศรี วรนุช’ ตั้งใจไว้ว่าจะรับงานเป็นครั้งคราว และช่วยกิจกรรมงานการกุศลและสาธารณประโยชน์

“แม่คิดว่าสักวันนึงแม่ต้องจากโลกนี้ไป ถ้าเราไม่ทำเป็นวิทยาทานให้นิสิตนักศึกษา นักร้องรุ่นหลังที่บรรพบุรุษสร้างมาอยากจะให้คนรุ่นหลังสานต่อ เมื่อไม่มีแม่แล้ว แม่ยังเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาต่อ เราไม่อยากให้สูญหายไป ให้อยู่คู่กับประเทศชาติไปตลอดเลยคิดสร้างตรงนี้ และอยากให้เขารู้ว่าความอดทนของคนเราแล้วเราไม่ได้ดังค้างฟ้ามีดังก็ต้องมีดับ แต่เราจะทำตัวยังไงให้ประชาชนรักและเมตตาเรา เราต้องรู้ตัวเองว่ามาจากไหน กตัญญูต่อบิดาครูบาอาจารย์ สร้างมา 3 ปีแล้วค่ะอยู่พุทธมณฑลสาย 5 เข้าไปก็จะเห็นหุ่นแม่คะ มีเส้นผมแม่ เล็บของแม่ สักวันนึงเมื่อถึงเวลาเราก็ต้องไป แม่ทิ้งคำสั่งเสียไว้หมดแล้ว เป็นวีดิโอวันสุดท้ายของแม่ เปิดฟังได้เลย จดหมายลาก็มี ตอนอัดร้องไห้ เพราะว่าพูดออกมาเองจากใจ สักวันนึงเมื่อแม่ไม่อยู่แล้ว ยังมีคำพูดของแม่ ที่ฝากความรักความคิดถึงสำหรับแฟนเพลง ผู้ที่มีพระคุณต่อแม่ ที่ให้แม่มีจนวันนี้ ศักดิ์ศรี เกียรติยศ เงินทอง เราไม่สามารถแบกไปได้ การเป็นศิลปินแห่งชาติ ได้สิทธิ์เงินเดือนตั้งแต่ 6,000-25,000 โรงพยาบาล 11 แห่งฟรีหมด แต่แม่ไม่เคยเอาเงินมาใช้ แม่ทำบุญหมด”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamtoday.com

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ