เรียกได้ว่าขอหลบชีวิตในเมืองกรุง ขอไปใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ในสไตล์ตัวเองอยู่ที่ต่างจังหวัดแบบเต็มตัว สำหรับพระเอกชื่อดัง น้ำ รพีภัทร ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคุณพ่อลูกสาม และยกครอบครัวไปสร้างบ้านกลางสวนที่ จังหวัดนครนายก โดยตั้งชื่อว่า “รพีภัทรฟาร์ม” เพื่อทำสวน ทำไร่ ทำบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย และไก่ชน รวมถึงสอนลูกให้สัมผัสกับชีวิตบ้านทุ่งเหมือนกับตนในวัยเด็ก

แต่ล่าสุดมีเรื่องที่ทำให้ น้ำ ถึงกับเสียน้ำตาแบบออกสื่อ เมื่อเจ้าตัวได้ตัดสินใจขายควายตัวโปรด ที่ตั้งชื่อว่า เจ้าเพลิน มูลค่า 2 ล้านเพราะได้ลั่นสัจจะวาจาไว้แล้ว ซึ่งในไลฟ์สดดังกล่าว น้ำ ได้บอกว่าตนเองไม่ได้คิดว่ากระบือตัวนี้จะขาย และได้ตั้งราคาไว้ 2 ล้าน เพราะกะจะไม่ขาย เพราะคิดว่าไม่มีใครมาซื้อแน่ๆ แต่สัจจะก็คือสัจจะ ตนเองไม่ใช่โจร เมื่อมีคนสู้ราคาก็ต้องแบ่ง และบอกต่อว่า เปลี่ยนใจก็ได้นะ ผมไม่อยากได้ตังค์แล้ว และยินดีกับคนที่ซื้อควายของตนเองไป และขอให้ดูแลควายของตนเองให้ดีด้วย เพราะเลี้ยงด้วยความรัก ไม่ได้เลี้ยงด้วยธุรกิจหรือกำไร ที่ร้องไห้ก็เพราะแฮปปี้ในการผลิตควายเนื่องจาก น้องเพลิน เกิดในคอกและผลิตในคอก ใครไม่เลี้ยงไม่รู้หรอก เพราะตนเองเลี้ยงด้วยความรักและความเอาใจใส่เป็นอย่างดี

ผมว่าจริงๆ แล้วคนที่อยู่ต่างจังหวัด อยากกลับมาใช้ชีวิตที่บ้าน สูดอากาศดีๆ อยู่อย่างสบายๆ เหมือนกันทั้งนั้น น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล เอ่ยขึ้นขณะเอนกายนั่งคุยสบายๆ ที่บ้านกลางทุ่งของเขาในอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ชีวิตที่บ้านไร่ชายทุ่งของเขาเริ่มขึ้นอย่างจริงจังเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เขาเลือกกลับมาลงหลักปักฐานที่จังหวัดบ้านเกิด ปลุกปั้นฟาร์มไก่ที่เป็นความรักความชอบเมื่อเยาว์วัย และอีก 2 ปีต่อมาเขาย้ายครอบครัวมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างถาวร ในฐานะคุณพ่อลูกสาม เขาตั้งใจเลี้ยงลูกชายและลูกสาวให้เป็นเด็กบ้านทุ่ง ที่ได้สูดอากาศดีๆ สัมผัสวิถีชีวิตที่อยู่กับดิน หญ้า และสัตว์เลี้ยงเหมือนกับเขาในวันวาน ทุกวันนี้เขาเลี้ยงไก่ เลี้ยงควาย เลี้ยงม้า เลี้ยงปลา และใช้ชีวิตสบายๆ เหมือนได้พักผ่อนต่างจังหวัดทุกวัน ชนิดไม่ต้องรอวันหยุดแล้วหาโอกาสไปเที่ยว ในวัยเพียง 35 ปี น้ำ รพีภัทร มีชีวิตเนิบช้าที่เขาปรารถนามาตลอด โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยเกษียณ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ siamtoday.com