คร.เตรียมวัคซีนเข็มกระตุ้น เร่งสั่งวัคซีนCV เพิ่ม120ล้านโดส

คร.เตรียมวัคซีนเข็มกระตุ้น เร่งสั่งวัคซีนCV เพิ่ม120ล้านโดส

อธิบดีกรมควบคุม โ ร ค เผยตัวเลขฉีด วั ค ซี นCV-19 แล้ว กว่า 26ล้าน โดส เตรียมเข็มกระตุ้น สำหรับคนที่ฉีด SV 2เข็ม เร่งเตรียม วั ค ซี น ปี65 อย่างน้อย 120 ล้านโดส ไฟเซอร์ 50 ล้าน โดส แอสตร้า 50 ล้านโดส

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุม โ ร ค กล่าวถึงผลสรุปการฉีด วั ค ซี น CV-19 ในประเทศไทยว่าผลการให้บริการ วั ค ซี น CV วันที่ 20 สิงหาคม 2564 พบว่ามีจำนวนผู้ได้รับ วั ค ซี น 609,435 โดยแบ่งเป็นเข็มแรกจำนวน 387,683 ราย เป็น วั ค ซี น ซิโนแวค 227,434 รายแอสตร้าเซนเนก้า 87,812 ราย ซิโนฟาร์ม 63,936 ราย ไฟเซอร์ 8,501 ราย

เข็ม 2 มีผู้ได้รับ วั ค ซี น แล้ว 215,411 รายเป็น วั ค ซี น ซิโนแวค 2,100 ราย วั ค ซี น แอสตร้าเซนเนก้า 176,077 ราย วั ค ซี น ซิโนฟาร์ม 36,949 ราย และไฟเซอร์ จำนวน 288 ราย

สำหรับ วั ค ซี น เข็ม 3 มีผู้ได้รับจำนวน 6,338 ราย เป็นแอสตร้าเซนเนก้า 1,032 ราย และไฟเซอร์ 5,306 ราย

ทั้งนี้ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ได้รับ วั ค ซี น CV-19 แล้วจำนวน 26,428,101 โดส มีผู้ได้รับเข็ม 1 จำนวน 19,973,692 โดส หรือคิดเป็น 27.7% ผู้ที่ได้รับครบ 2 เข็มมีจำนวน 5,920,614 รายหรือคิดเป็น 8.2%

สำหรับผลการฉีด วั ค ซี น CV สะสมจำแนกตามบริษัทผู้ผลิตตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เป็นซิโนแวค มีการฉีดไปแล้วจำนวน 12,328,604 ราย แอสตร้าเซนเนก้า 11,161,950 ราย ซิโนฟาร์ม 2,440,215 ราย และไฟเซอร์ 497,332 ราย

สำหรับยอดสะสมการรับ วั ค ซี น CV-19 รายจังหวัดตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม แบ่งเป็นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด มีผู้ได้รับ วั ค ซี น เข็มแรกแล้วจำนวน 11,083,904 คนคิดเป็น 50% เข็ม 2 จำนวน 2,784,163 คนคิดเป็น 12.6% และเข็ม 3 จำนวน 217,737 คนคิดเป็น1.0% ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ได้รับ วั ค ซี น เข็มแรกแล้ว 6,351,588 คนคิดเป็น 82.5% เข็ม 2 จำนวน 1,456,273 คนคิดเป็น 18.9% เข็ม 3 จำนวน 119,969 คนคิดเป็น 1.6% จังหวัดนนทบุรีมีผู้ได้รับ วั ค ซี น เข็มแรก 617,140 คนคิดเป็น 18.4% เข็ม2 จำนวน 216,060 คน คิดเป็น 13.4% และเข็ม 3 จำนวน 10,939 คน คิดเป็น 0.7% จังหวัดปทุมธานีมีผู้ได้รับ วั ค ซี น 594,196 คนเข็มแรกคิดเป็น 18.7% เข็ม 2 จำนวน 135,753 คน คิดเป็น 8.9% และเข็ม 3 จำนวน 7,247 คน คิดเป็น 0.5% ภาพรวมจังหวัดอื่นๆ 64 จังหวัดมีผู้ได้รับ วั ค ซี น แล้วรวม 8,889,788 คนคิดเป็น 17.8% เข็ม 2 จำนวน 3,136,451 คนคิดเป็น 6.3% และเข็ม 3 จำนวน 316,058 คนคิดเป็น 0.6%

ทั้งนี้ทั้งประเทศมีผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปได้รับ วั ค ซี น เข็มแรกแล้วทั้งหมด 4,206,659 คนหรือคิดเป็น 38.6% ทั้งนี้ได้มีการกำหนดเป้าหมายในการฉีด วั ค ซี น ให้แก่ผู้สูงอายุโดยตั้งเป้าจะฉีดให้ได้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรจะฉีด วั ค ซี น ให้แก่ผู้สูงอายุ 70%

จะเห็นได้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการฉีด วั ค ซี น ได้มากถึง 5แสน- 6แสน โดสต่อวันโดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการฉีด วั ค ซี น ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์มีการฉีด วั ค ซี น ไปแล้วจำนวนสองถึง 3 ล้านโดสซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับในกรณีหญิงตั้ง ค ร ร ภ์ พบว่ามีข้อมูลชัดเจนว่าในกรณีที่หญิงตั้ง ค ร ร ภ์ ติด เ ชื้ อ CV-19 จะส่งผลให้มีอาการหนักอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไปสองถึงสามเท่าและมีโอกาสได้มากกว่าคนทั่วไปจึงอยากขอเชิญชวนให้หญิงตั้ง ค ร ร ภ์ เข้ารับ วั ค ซี น

สำหรับ วั ค ซี น ที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคม 2564 พบว่าจนถึงปัจจุบันมี วั ค ซี น เข้ามาแล้วถึง 30 ล้านโดส ในเดือนกันยายน จะมีการส่งแอสตร้าเซนเนก้า เข้ามาในประเทศไทยอีกประมาณ 7.2 ล้านโดส สำหรับในปี 2565 อาจจะจำเป็นที่จะต้องมีการฉีด วั ค ซี น เข็ม 3 หรือบูสเตอร์โดส และรวมไปถึงกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ที่ยังไม่ครอบคลุม เช่นกลุ่มเด็ก

ซึ่งขณะนี้มีผลวิจัยว่าในหลายหลายประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องฉีด วั ค ซี น ในกลุ่มเด็กรวมถึงการฉีดบูสเตอร์โดส ในบุคคลทั่วไปด้วยเนื่องจากมีข้อมูลวิจัยแล้วว่าหลังจากฉีด วั ค ซี น แล้วครบสองเข็มภูมิคุ้มกันจะลดลงไม่ว่าจะเป็น วั ค ซี น ยี่ห้อใดก็ตาม จึงจำเป็นที่จะต้องฉีดกระตุ้นเข็มสามให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องจัดหา วั ค ซี น เพิ่มเติมในปี 2565 อย่างน้อย 120 ล้าน โดส รวมถึงให้มี วั ค ซี น ที่มีความหลากหลายในการฉีดมากขึ้น

ทั้งนี้สถาบัน วั ค ซี น แห่งชาติได้มีการแสดงเจตน์จำนงค์โดยการที่จะนำเข้า วั ค ซี น ของบริษัทไฟเซอร์อีกจำนวนอย่างน้อย 50 ล้าน โดส และแอสตร้าเซนเนก้า อีก 50 ล้าน โดส นอกจากนี้ ในหลายบริษัทเริ่มมีการผลิต วั ค ซี น รุ่นใหม่ที่สามารถป้องกัน เ ชื้ อ กลายพันธุ์ได้มากขึ้นหรือที่เรียกว่า วั ค ซี น รุ่นสองหรือ secon generation หากมีการวิจัยและยืนยันว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัยจะขอให้ทางบริษัทส่ง วั ค ซี น รุ่นสองให้กับประเทศไทยรวมถึงปริมาณและกำหนดการส่งที่แน่นอน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจา โดยขณะนี้มีความก้าวหน้าไปด้วยดี

เรียบเรียงโดย ทีมงาน siamtoday

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ