ภาพปัจจุบัน  อิน บูโดกัน เปลี่ยนลุคห้าวเป็นสาวหวานราวเป็นคนละคน

ภาพปัจจุบัน อิน บูโดกัน เปลี่ยนลุคห้าวเป็นสาวหวานราวเป็นคนละคน

สร้างความฮือฮาเลยทีเดียว เมื่อนักร้องนักแสดงสาว อิน บูโดกัน ขอเปลี่ยนลุคจากสาวห้าวๆ แมนๆ ลุยๆ กลายเป็นสาวหน้าหวานสวยละมุน เรียกว่าเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน งานนี้มีตะลึงตาค้างล่ะจ้าบอกเลย

ซึ่งก่อนหน้านี้ อิน บูโดกัน ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการลดน้ำหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยน้ำหนักพุ่งไปถึง 74 กก.มาแล้ว

และตั้งใจออกกำลังกายควบคู่กับการคุมอาหาร จนน้ำหนักลดไปกว่า 10 กก. จนหลายคนชื่นชมในความมีวินัยและเอาจริงเอาจัง

และล่าสุดอินก็ได้โพสต์ภาพตัวเองในวันวาน กับภาพตัวเองในลุคสาวสวยหวานละมุน

ซึ่งเจ้าตัวไปทำสวย Fix คิ้ว เพื่อไม่ให้หนังตาตก ดริปวิตามิน ทรีตเมนต์ฟื้ นฟูผิ ว ห น้า จัดการริ้ ว ร อย ยกกระชับหน้ าเรี ย ว ฉี ด ป าก ดูแลรู ปร่าง พร้อมทั้งเขียนแคปชั่น

ขอ..ให้เหมือนเดิม กูอิน และ ขอให้เหมือนเดิม คงยากไป พราะตอนนี้ อินไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ

หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิง รวมถึงแฟนๆ แห่คอมเมนต์แซวว่าสวยมาก สวยเกินเบอร์ สวยจนเกือบจำไม่ได้ ฯลฯ

อินทิรา ยืนยง หรือ อิน บูโดกัน เกิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 สำเร็จการศึกษาวิชาเอกดนตรีศึกษา (เครื่องดนตรีทรัมเป็ท) จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เป็นนักร้องนำของวง บูโดกัน ของ GMM Grammy

อินยังได้เป็นครูสอนร้องเพลงให้กับ ปฏิบัติการนักล่าฝัน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ True Academy Fantasia อีกด้วย เมื่อ พ.ศ. 2551 ชีวิตส่วนตัวแต่งงานแล้ว กับ จอห์น ศุภชัย พรหมมินทร์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2559

อินได้มาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวสาเหตุที่เธอเงียบหายไปจากวงการเกือบ 2 ปี ซึ่งอินเผยสาเหตุที่หายไปจากการทำเพลงว่า ท้อใจกับพวกแผ่นผ ี และพิษเศรษฐกิจ จนยึดอาชีพครูสอนดนตรีเลี้ยงตัว

เกือบ 2 ปีแล้วที่หายไปจากการทำเพลง ที่ผ่านมาผลงานเราติดตลาดนะ แต่อัลบั้มกลับขายไม่ได้ เพราะแผ่นผ ีมันชุมเหลือเกิน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พวกเราท้อกับการทำงานนะ

ซึ่งอินพูดต่อว่า ยอมรับว่างานเราไม่ฟู่ฟ่าเหมือนก่อน แต่ไม่ถือว่าตัวเองตกอับนะ เพราะเราไม่อยู่นิ่ง

พยายามหางาน และยืนด้วยตัวเองตลอด แต่วันหนึ่งมันไม่ไหวเราก็ต้องปล่อยวางบ้าง หลายๆ คนอาจจะมองว่าอายไหม ที่เคยดังแล้ววันนี้คนรู้จักน้อยลง ไม่เลย ไม่เคยอยู่ในหัวอินเลย

อินดูแลครอบครัวด้วยความสามารถตัวเองมาตลอด คนจะรักก็รักที่อินเป็นอิน ชื่อเสียงก็คือผลพลอยได้ ที่คนฟังปรานี ฉะนั้นวันนี้ถ้าคนรู้จักเราน้อยลง เพราะเราไม่ค่อยได้ออกสื่อ"

ซึ่งสุดท้ายอินได้ปิดท้ายว่า อินถือคติว่าคนเรามีขึ้นย่อมมีลง ไม่ซีเรียส ทุกวันนี้ก็สอนลูกศิษย์ที่บ้านและรับงานจ้างทั่วๆ ไป วงเรายังไม่แตก และยังรับงานอยู่ มีโอกาสเมื่อไหร่คงได้ทำงานเพลงให้ฟังกันอีกครั้ง เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆ ศิลปินทุกคนที่มุ่งมั่นกับการทำเพลงด้วยค่ะ

เรียบเรียง siamtoday

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ